SMEs ใช้ 'ระบบ ERP' เจ้าไหนดี? เทียบมาให้แล้ว ERP 5 แบรนด์ดังที่นิยมใช้ในไทย

​ ​ระบบ ERP หรือ Enterprise Resource Planning นับว่าเป็นกลยุทธ์ดิจิทัลเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับธุรกิจยุคใหม่ ด้วยความสามารถในการจัดการงานที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าเป็น เปิดบิลซื้อขาย การจัดการสต็อก การจัดการงานจัดซื้อ ไปจนถึงการจัดการทางด้านบัญชี  ทำให้การบริหารจัดการองค์กรสามารถทำได้อย่างราบรื่นและเพิ่ม Productivity ให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งระบบ ERP มักเป็นเครื่องมือที่เข้ามาแก้ปัญหาชวนปวดหัวต่าง ๆ ของผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็น

• ปัญหาจากการที่ธุรกิจไม่มีระบบที่ครอบคลุมการทำงาน
  ต้องใช้หลายโปรแกรมในการทำงาน ทั้งโปรแกรมบัญชี โปรแกรมออกใบเสนอราคา โปรแกรมจัดการสต็อกสินค้า เมื่อต้องการข้อมูลก็ต้องเสียเวลารอข้อมูลจากอีกฝ่าย ทำให้การทำงานซ้ำซ้อนกัน ไม่มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน และล่าช้า
• ปัญหาจากการกระจัดกระจายของข้อมูล
  เพราะการทำงานแบบเดิมมักมีการจดบันทึกแบบ Manual หรือใช้ Sheet ในการเก็บข้อมูล ซึ่งส่งผลให้ข้อมูลที่มีนั้นกระจัดกระจาย ไม่เชื่อมโยงกัน และเกิดความผิดพลาดสูง ไม่สามารถติดตามการทำงานของทีมได้
• ไม่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ธุรกิจได้
  เพราะข้อมูลไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ คำนวณต้นทุนก็เป็นเรื่องยาก วิเคราะห์แนวโน้มยอดขายก็ไม่แม่นยำ ส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ และยังไม่สามารถเห็นกระแสเงินสดของธุรกิจได้ทันที ทำให้การตัดสินที่สำคัญของธุรกิจผิดพลาด

​ ​ปัญหาเหล่านี้ ทำให้ระบบ ERP กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการ แต่ปัจจุบันระบบ ERP ในตลาดก็มีผู้ให้บริการหลายรายที่มีฟีเจอร์และจุดเด่นแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของธุรกิจหลากหลายประเภท จึงเป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการตัดสินใจนำระบบ ERP เข้ามาใช้ในธุรกิจ

​ ​วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงฟีเจอร์ของระบบ ERP ทั้ง 5 แบรนด์ที่มาแรงในหมู่ผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Ecount, BEECY, Dynamics 365 Business Central Premium, Odoo และ SAP Business One เพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับเจ้าของธุรกิจ SMEs ทุกคนกัน

เปรียบเทียบฟีเจอร์

*อัปเดทข้อมูลวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ​

​ ​ ​จากตาราง แม้ระบบ ERP ในแต่ละเจ้าจะมีฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนามาให้รองรับการทำงานในแต่ละส่วนของธุรกิจอย่างครบครัน แต่ก็ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ BEECY ERP สามารถทำได้มากกว่า และเป็นฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยให้การบริหารจัดการธุรกิจทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น

• • การจัดการเงินสดย่อย เพื่อให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น 
  • การจัดการงินทดรองจ่าย เพื่อจัดการเงินสำรองไว้ให้พนักงานขอเบิกได้ สำหรับการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการตามความจำเป็น
  • การแชร์ลิงค์เอกสารให้กับบุคคลภายนอก ฟีเจอร์นี้จะทำให้กาจัดการเอกสารของธุรกิจสะดวกมายิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการปริ้นท์เอกสาร เพียงแค่แชร์ลิงก์ลูกค้าก็สามารถเซ็นต์ยืนยัน พร้อมกับจ่ายเงินได้ทันที

​ ​ ​ฟีเจอร์ของ BEECY ERP ค่อนข้างเทียบเคียงกับ Odoo ERP ระบบ ERP ที่ธุรกิจชั้นนำทั่วโลกนิยมใช้งานไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจน คือ BEECY ERP เป็นระบบ ERP ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้รองรับกับธุรกิจ SMEs ของไทยมากกว่าทั้งในด้านการช่วยเหลือและดูแล และเอกสารทางด้านบัญชีที่ต้องยื่นให้กับสรรพากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

​ ​BEECY ERP ประกอบด้วย 4 โมดูลการทำงานที่เชื่อมการทำงานได้อย่างไหลลื่น

ระบบงานขาย (Sales)

​ ​สามารถเปิดใบเสนอราคาออนไลน์ และใบสั่งขายได้ผ่านระบบ จัดการงานขายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการรวบรวมข้อมูล Lead และติดตามได้ทุกสถานะ ติดตามประวัติการซื้อ ช่วยให้เสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

ระบบจัดซื้อ (Purchase)

​ ​สามารถจัดการเอกสารได้ตั้งแต่ใบขอซื้อ ลดขั้นตอนการทำงานด้วยการกำหนด Safety Stock เพื่อให้ระบบช่วยเปิดใบสั่งซื้อให้อัตโนมัติ ช่วยจัดการการสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์ และยังสามารถเปรียบเทียบราคา เพื่อเลือกซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดได้

ระบบคลังสินค้า (Inventory)

​ ​สามารถติดตามสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทราบจำนวนสินค้าคงคลังที่แน่นอน ช่วยให้ตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการสต็อกสินค้า และป้องกันสินค้าหมดสต็อก

ระบบบัญชีและการเงิน (Accounting)

​ ​ครอบคุลมทั้งฝั่งรายได้และรายจ่าย ตอบโจทย์กับธุรกิจของไทยด้วยการจัดการเอกสารทางบัญชีได้อย่างครบครัน ทั้งรายงานภาษีซื้อ–ขาย ภ.ง.ด.3 / ภ.ง.ด.53 เอกสารหัก ณ ที่จ่าย การจัดการทรัพย์สิน ไปจนถึงรายงานงบการเงิน สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขาย กำไร และต้นทุน ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

​ ​นอกจากนี้ BEECY ERP ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่สามารถเข้ามาช่วยให้การจัดการธุรกิจเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

• Multi Company: สามารถจัดการบริษัทได้หลายบริษัทในระบบเดียว เพื่อให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมบริษัททั้งหมดของคุณได้
• Log History: เก็บบันทึกการแก้ไขข้อมูลต่าง ๆ ทำให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ในภายหลังว่า มีใครเข้ามาแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่
• Import – Export: ข้อมูลจำนวนมากได้ ไม่ต้องคีย์ข้อมูลให้เสียเวลาผ่าน BEECY Template
• Access Rights: กำหนดสิทธิ์ผู้ใช้และเงื่อนไขการอนุมัติเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของธุรกิจคุณ
• Anywhere Operations: เข้าถึงได้ตลอดจากทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่
  

​ ​BEECY ERP ถูกพัฒนามาให้เหมาะกับธุรกิจหลากหลายประเภทของคนไทย โดยเฉพาะธุรกิจซื้อมาขายไป หรือ Trading Business ซึ่งสามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ทุกฝ่ายและทุกแผนก ทั้งการจัดการสต็อกสินค้า การจัดการลูกค้า การจัดซื้อ และการจัดการบัญชี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสามารถเข้ามาช่วยให้ลดการผิดพลาดของข้อมูลลง บริหารธุรกิจอย่างมืออาชีพและเป็นระบบมากขึ้น

• All-in-One Solution จัดการธุรกิจได้ ครบ จบในระบบเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคุลมธุรกิจทั้ง ระบบงานขาย ระบบจัดซื้อ ระบบคลังสินค้า และระบบบัญชีและการเงิน
• Collaboration เชื่อมโยงการทำงานของทุกฝ่าย ทุกแผนก ทำให้การจัดการข้อมูลเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
• Greater Productivity ลดงานซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบที่มีความ Automate มากขึ้น
• Online & Real-Time Dashboard เรียกดูข้อมูลและรายงานได้แบบเรียลไทม์ เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
• Scalability รองรับการเติบโตสำหรับธุรกิจทุกขนาด

​ ​นอกจากนี้ BEECY ERP ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้อีกหลากหลายประเภท ไม่จะเป็นธุรกิจบริการ ธุรกิจการผลิตสินค้า ธุรกิจที่ต้องมีการสต็อกสินค้า BEECY ERP ยังมุ่งมั่นพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อีกมายมาย ทั้ง ระบบการผลิต, ระบบการขายหน้าร้าน (POS), Marketplace, ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล และระบบฝากขาย เพื่อให้ครอบคุลมกับธุรกิจ SMEs ในไทยมากยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ครบ จบในระบบเดียว

​​BEECY ERP มีแพ็กเกจการใช้งานให้เลือกแบบรายเดือนและแบบรายปี

แพ็กเกจรายเดือน

​ ​ราคา 790 บาท/ผู้ใช้งาน/เดือน จากราคาปกติ 990 บาท/ผู้ใช้งาน/เดือน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นกิจการที่ต้องการทดลองใช้งานระบบให้เข้ากับกิจการ

แพ็กเกจรายปี

​ ​ราคา 490 บาท/ผู้ใช้งาน/เดือน จากราคาปกติ 990 บาท/ผู้ใช้งาน/เดือน ซึ่งนอกจากจะคุ้มค่ามากกว่าแล้วโดย ยังได้รับสิทธิ์การใช้งานเพิ่มอีก 2 เดือนทันที

​ ​ทั้ง 2 แพ็กเกจสามารถใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์ ทั้งระบบงานขาย ระบบงานจัดซื้อ ระบบจัดการคลังสินค้า และระบบบัญชีและการเงิน และยังมาพร้อมกับบริการอบรมการใช้งานระบบและดูแลให้ความช่วยเหลือโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ