หมดไฟในการทำธุรกิจ จะแก้อย่างไร เมื่อ CEO ก็ Burnout ได้เหมือนกัน

​ ​เป็นเจ้าของธุรกิจใครว่าจะ Burnout ไม่ได้ เมื่อบางครั้งเจ้าของกิจการก็หมดไฟได้เหมือนกัน แล้วทีนี้จะทำอย่างไรให้พลังกายพลังใจกลับมา

​ ​แน่นอนว่าในยุคของความรวดเร็วและการแข่งขัน ไม่ว่าจะผู้ประกอบการหรือ CEO ต่างก็มีความเสี่ยงที่จะ Burnout ได้ทั้งนั้น และอาจจะมากกว่าคนอื่น ๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาต้องแบกรับทั้งความรับผิดชอบ ความกดดัน และความคาดหวังในระดับสูงที่มาพร้อมกับบทบาทหน้าที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือแม้กระทั่งความเชื่อที่ว่า 'การเป็นผู้ประกอบการนั้นต้องประสบความสำเร็จ' สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ ที่ทำให้เหล่าผู้ประกอบการรู้สึกหมดไฟในการทำธุรกิจ เพราะต้องสะสมทั้งความเครียดและความกดดันมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome คืออะไร?

​ ​ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่าภาวะ Burnout ไม่ใช่เรื่องร้ายที่จะแก้ไขไม่ได้ เพราะภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครหรือเมื่อไรก็ได้ โดย Burnout เป็นมากกว่าความรู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้า แต่เป็นสภาวะของความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยอาจส่งผลกระทบโดยตรงทั้งต่อตัวบุคคลเองและในบทบาทของผู้ประกอบการ หรือ CEO ก็อาจส่งผลมาถึงธุรกิจด้วย โดยในปี 2018 Harvard Business Review เผยว่า ภาวะ Burnout ของผู้ประกอบการสร้างความเสียหายให้กับสหรัฐฯ มากถึง 300 พันล้านดอลลาร์

​ ​ซึ่งการตระหนักถึงสัญญาณของการ Burnout ถือเป็นขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหา โดยอาการที่มักจะพบบ่อย เช่น

สัญญาณ Burnout Syndrome อาการของคนหมดไฟ

​ ​- ขาดสมาธิและมีแรงจูงใจในการทำงานลดลง
​ ​- เกิดความรู้สึกเศร้าหรือซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง
​ ​- มีปัญหาในการนอนหลับหรือนอนหลับไม่เพียงพอ
​ ​- หงุดหงิดและเริ่มที่จะไม่สนใจธุรกิจของคุณเอง
​ ​- มองสิ่งต่างในมุมมองลบอย่างต่อเนื่อง และเกิดความรู้สึกล้มเหลว

​ ​หากปล่อยให้เกิดอาการเหล่านี้ต่อไป แน่อนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ การตัดสินใจที่ไม่มีประสิทธิภาพ และความรู้สึกเหล่านี้อาจจะส่งผลไปถึงทีมงานทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าตามไปด้วย

แล้วผู้ประกอบการจะแก้ไขอย่างไรเพื่อป้องกันภาวะหมดไฟนี้

 
​ ​ไมค์ แคปเปล (Mike Kappel) CEO จาก Patriot Software ได้แชร์ 6 วิธีในการหลีกหนีภาวะ Burnout ของผู้ประกอบการ ไว้ใน Forbes ไว้ดังนี้

1. หาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ Burnout

​ ​แม้จะฟังดูเหมือนเป็นวิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุด แต่การมองกลับไปที่จุดเริ่มต้นของปัญหาในขณะที่จิตใจกำลังพบกับความสับสนมากมายก็อาจเป็นเหมือน 'เส้นผมบังภูเขา' ที่มองหาเท่าไรก็ไม่เจอทางออกสักที ดังนั้นลองตั้งคำถามกับตัวเองสักสองสามคำถาม เช่น “ตารางงานของฉันเป็นยังไงบ้าง” และ “เมื่อใดที่ฉันรู้สึกเครียดหรือหนักใจมากที่สุด” การลองถามคำถามเหล่านี้อาจะช่วยให้คุณมองกลับไปยังที่สาเหตุของปัญหาได้

2. ให้เวลากับตัวเอง

​ ​สำหรับผู้ประกอบการบางครั้งตารางงานก็แน่นเสียยิ่งกว่าใคร ดังนั้นคุณควรให้ความสำคัญกับตัวเองมาเป็นอันดับแรกบ้าง ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว เช่น ทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ใช้เวลากับเพื่อนหรือครอบครัว ยิ่งคุณมี 'Work Life Balance' มากขึ้นเท่าไรธุรกิจของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น คุณจะมีความสุขมากขึ้น มีประสิทธิผลมากขึ้น และเครียดน้อยลง และในทางกลับกัน ธุรกิจของคุณก็จะประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยเช่นกัน

3. ปล่อยให้ความเหนื่อยล้าของคุณได้พักด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ

​ ​จากงานวิจัยพบว่า คนที่ได้นอนเพียง 5 ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลงถึง 29% ดังนั้นเพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อนล้าที่กำลังก่อตัวคุณต้องหาเวลาให้กายได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ

4. เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ

​ ​ยิ่งเป็นผู้ประกอบการยิ่งต้องเรียนรู้ถึงคำว่า "Say No" เพราะคุณเพียงคนเดียวไม่สามารถทำงานทุกอย่างได้ทั้งหมด ดังนั้นปฏิเสธสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นจะช่วยให้ภาระทางจิตใจของคุณเบาลง เช่น คุณอาจให้ทีมช่วยทำสรุปข้อมูลที่จำเป็นแทนการเข้าประชุมที่กินเวลายาวนานและไม่สามารถสรุปผลได้ หรืองานบางอย่างอาจมอบหมายให้ทีมช่วยรับผิดชอบ และใช้เวลามาโฟกัสกับสิ่งที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต

5. จัดการเวลาที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ

​ ​การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ทั้งชีวิตและการทำงานของคุณราบรื่น คุณชาร์จพลังและมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและใจได้เป็นอย่างดี

6. เรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับความเครียด

​ ​ความเครียดเป็นส่วนประกอบหนึ่งของภาวะ Burnout ยิ่งความสะสมเพิ่มขึ้นเท่าไร คุณก็จะยิ่งรู้สึก Burnout มากขึ้นเท่านั้น อาจจะลองหาเวลาออกกำลังกาย ผ่อนคลายกับเพื่อนหรือครอบครัว การจัดการกับความเครียดที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้จิตใจปลอดโปร่งและมีเวลาว่างเพียงพอไปกับการพักผ่อนหรือกิจกรรมที่ผ่อนคลายนั่นเอง

​ ​เมื่อเรามีสุขภาพจิตที่ดี ย่อมทำให้มีพลังในการขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นการทำความเข้าใจ เรียนรู้ และหาวิธีป้องกัน ก็จะสามารถช่วยสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับทั้งตัวเราเองและทีมงานของเรา ที่เขาอาจเสี่ยงกับสภาวะหมดไฟได้เช่นกัน